سكوير
الأحدث
رائج
أخبار
نظرة عامة على المركز الشخصي
المنشور
GasFeeCrybaby
2025-12-24 19:50:26
متابعة
## ลงทุน Trust สำหรับคนไทยต้องรู้อะไรบ้าง REIT กับทรัสต์ต่างกันตรงไหน
นักลงทุนส่วนใหญ่ยังสับสนว่า **Trust** กับ **REIT** นี่มันเรื่องเดียวกันหรือต่างกัน หรือว่ากองทุนรวมที่เราชินตาชินใจนั่นแหละ ความจริงแล้ว สามารถเป็นคนละเรื่องกันได้ เพราะแม้ว่าทั้งสามจะเป็นเครื่องมือในการบริหารสินทรัพย์ แต่กลไกการทำงานและข้อกำหนดกฎหมายั้นแตกต่างออกไป วันนี้เราจะมาหมดปัญหาการสับสนนี้ให้ขาด และเข้าใจว่า Trust เหมาะสำหรับนักลงทุนแบบไหน
## Trust คืออะไร เปิดใจให้อดัมมา
**Trust** นั่นเป็นเครื่องมือทางกฎหมายสำหรับการบริหารจัดการสินทรัพย์ โดยหลักการคือ มีคนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน (ผู้ก่อตั้ง) โอนทรัพย์สินนั้นให้กับคนอื่นที่เชื่อถือได้ (ผู้จัดการ) เพื่อให้นำผลตอบแทนไปจ่ายให้กับอีกคนหนึ่ง (ผู้รับผลประโยชน์)
ทรัพย์สินที่เอามาจัดการผ่าน Trust ได้หลากหลายชนิด เช่น เงินสด อสังหาริมทรัพย์ หุ้น พันธบัตร ธุรกิจต่างๆ จนถึงงานศิลปะ หนี้สิน หรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้ได้
พูดให้เข้าใจง่ายๆ Trust คือระบบ "ให้คนอื่นช่วยจัดการเงินคุณ" เพื่อให้รายได้ที่ได้มาไปช่วยเหลือบุคคลที่สาม หรือบรรลุวัตถุประสงค์เฉพาะที่กำหนดไว้
### ที่ไหนใช้ Trust ได้ และที่ไหนต้องระวัง
**Trust นั้นมีประโยชน์หลายด้าน:**
ประการแรก สามารถส่งผลตอบแทนให้บุคคลที่สามได้โดยไม่ต้องโอนทรัพย์สินจริงๆ เอาไว้ได้ดี ยิ่งถ้าต้องการจัดการมรดกที่ซับซ้อน
ประการที่สอง ผู้จัดการ Trust (ผู้ว่าราชการ) ต้องปฏิบัติตามสัญญาเสียตรงตัว ซึ่งปกป้องเจ้าของทรัพย์ได้เป็นอย่างดี
ประการที่สาม ประเทศบางแห่งให้ประโยชน์ภาษีกับ Trust ขึ้นอยู่กับกฎหมายแต่ละประเทศ
ประการที่สี่ Trust ที่เพิกถอนได้ช่วยให้มืออาชีพจัดการทรัพย์สินขณะเจ้าของป่วยหรือไม่มีความสามารถ และสามารถเพิกถอนมาจัดการเองได้เมื่อสบายแล้ว
ประการที่ห้า Trust มีความยืดหยุ่นในการจัดตั้งและปรับแปลงมากกว่า REIT หรือกองทุนธรรมดา เพราะเป็นเพียงสัญญาระหว่างผู้เกี่ยวข้อง ไม่ต้องลงทะเบียนหรือขออนุมัติหลายขั้น
### Trust มีกี่ประเภท ต้องรู้จักอยู่นั่น
Trust แบ่งออกตามเงื่อนไขการเพิกถอน:
- **Revocable Trust** - เพิกถอนได้ สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้
- **Irrevocable Trust** - เพิกถอนไม่ได้ ตั้งแต่ลงนามแล้วไม่สามารถย้อนกลับได้
นอกจากนี้ยังมี Trust ประเภทอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์:
- Asset Protection Trust - ป้องกันสินทรัพย์
- Charitable Trust - เพื่อการกุศล
- REIT (Real Estate Investment Trust) - ลงทุนอสังหาริมทรัพย์
- Land/Real Estate Trust - จัดการอสังหาริมทรัพย์
- Marital Trust - จัดการสินสมรส
- Special Needs Trust - จัดการเฉพาะด้านต่างๆ
และอีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้น Trust ที่ "ทำกำไรจากการลงทุน" เรียกว่า **Active Trust** ส่วน Trust ที่เพียงแค่ "ถือครองทรัพย์สิน" เพื่อประโยชน์อื่นๆ เรียกว่า **Passive Trust**
## ใครคือ 3 พระเอกในเรื่อง Trust
เมื่อมี Trust ต้องมี 3 ฝ่ายดำเนินการ:
**1. Settlor (ผู้ก่อตั้ง) - เจ้าของทรัพย์**
คนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินตั้งต้น พอลงนามสัญญา Trust แล้ว จะยังคงมีกรรมสิทธิ์ แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์หรือควบคุมทรัพย์สินนั้นแล้ว
**2. Trustee (ผู้จัดการ) - คนที่ไว้วางใจ**
บุคคลหรือสถาบันที่รับหน้าที่บริหารจัดการ Trust ตามสัญญา ไม่ได้ได้รับผลประโยชน์จากสินทรัพย์ แต่สามารถเรียกค่าจัดการได้
**3. Beneficiary (ผู้รับผลประโยชน์) - คนโชคดี**
ผู้ที่ได้รับผลตอบแทนจาก Trust ตามสัญญา มีสิทธิเรียกร้องหากทรัสตีทำผิดและติดตามเอาทรัพย์คืนได้
## Trust ต้องมีอะไรจึงสมบูรณ์ 3 เงื่อนไขต้องครบ
Trust จึงเป็นทางการไม่ใช่แค่เพราะ 3 ฝ่ายมา แต่ต้องครบ 3 เงื่อนไขดังนี้:
**1. Certainty of Word - เจตนาต้องชัดเจน**
ต้องมีสัญญาลายลักษณ์อักษรที่ชัดแจ้งระหว่าง Settlor และ Trustee ว่าต้องทำอะไรตรงไหน
**2. Certainty of Subject Matter - ทรัพย์สินต้องเจาะจง**
ต้องมีความชัดเจนว่าทรัพย์สินอะไร มีอยู่จริงหรือเปล่า และจะบริหารจัดการยังไง
**3. Certainty of Object - ผู้รับประโยชน์ต้องแน่นอน**
ผู้ที่จะได้รับประโยชน์ต้องมีตัวตน ไม่ใช่คนที่เสียชีวิตหรือหายตัวไปแล้ว
## Trust vs REIT vs Fund - อยากรู้ต้องศึกษา
**Trust vs REIT มีความเหมือนจริงๆ:**
REIT ก็คือ Trust ประเภทหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับอสังหาริมทรัพย์ ประเด็นต่างคือ REIT จำกัดเฉพาะการลงทุนใน real estate แต่ Trust ทั่วไปสามารถบริหารสินทรัพย์ได้เกือบทุกชนิด
ทั้ง Trust และ REIT ต่างก็ไม่ใช่นิติบุคคลตามกฎหมาย และต่างก็ตั้งขึ้นโดยสัญญา
**Trust vs กองทุนรวม (Fund) นี่ต่างกันเสียเดือน:**
- **โครงสร้างกฎหมาย:** กองทุนเป็นนิติบุคคล แต่ Trust ไม่ใช่
- **วิธีการบริหาร:** Fund นำเงินจากผู้ถือหน่วยไปลงทุนตามแผน ส่วน Trust เป็นการโอนทรัพย์ให้ Trustee ดำเนินการ
- **กระบวนการจัดตั้ง:** Fund ต้องลงทะเบียนและขออนุญาต Trust มีความยืดหยุ่นมากกว่า
## ประเทศไทย อนุญาตให้ลงทุน Trust แบบไหนบ้าง
ในไทย ทรัสต์ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นเพื่อการระดมทุนในตลาดทุนเท่านั้น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) อนุญาต 2 รูปแบบ:
**1. Active Trust - Trust จัดการเพื่อสร้างผลประโยชน์**
ถูกก่อตั้งมาเพื่อบริหารทรัพย์สินให้เกิดรายได้ เช่น:
- II/HNW Trust Fund - สำหรับสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่
- REIT - สำหรับอสังหาริมทรัพย์
**2. Passive Trust - Trust ถือครองทรัพย์สินตามจุดประสงค์**
จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลสินทรัพย์เพื่อประโยชน์เฉพาะ เช่น:
- ESOP - เพื่อออกและเสนอขายหุ้นให้กรรมการและพนักงาน
- EJIP - โครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
- Reserve Account / Sinking Fund - สำหรับเก็บเงินชำระหนี้หุ้นกู้
ในทางปฏิบัติ Trust ส่วนใหญ่ที่จัดตั้งในไทยเป็น REIT ทำให้นักลงทุนทั่วไปส่วนใหญ่รู้จัก Trust เพียงผ่าน REIT อย่างเดียว แต่ข้อดีคือ REIT จำพวดสินทรัพย์ได้ง่าย ไม่มีปัญหาคุณภาพ ทำให้แม้มือใหม่ก็สามารถเข้าซื้อขายได้
## สรุป ถ้าไทยต้องลงทุน Trust ลงทุนเรื่องอะไร
**Trust** ตัวจริงคือเครื่องมือบริหารสินทรัพย์ที่เกิดมาจากสัญญาและความไว้วางใจ แม้จะเริ่มใช้เพื่อจัดการมรดกแต่ปัจจุบันสามารถนำมาจัดการสินทรัพย์ได้เกือบทุกประเภท
เมื่อเจ้าของทรัพย์มีสินทรัพย์เป็นอสังหาริมทรัพย์ Trust นั้นก็กลายเป็น REIT ซึ่งเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากลงทุนสินทรัพย์ใหญ่แต่งบประมาณจำกัด
ประเด็นสำคัญ: Trust เหมาะกับการรวมตัวของบุคคลหลายคนเพื่อมุ่งหวังเดียวกัน ส่วน REIT เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพราะมีความโปร่งใสและจำพวดได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ถ้าคิดลงทุน Trust ในไทยในตอนนี้ ส่วนใหญ่คุณก็จะเจอ REIT เป็นหลัก จึงคุ้มค่าที่จะศึกษา REIT ให้เข้าใจลึกๆ เพื่อตัดสินใจลงทุนได้อย่างเฉียบคม
شاهد النسخة الأصلية
قد تحتوي هذه الصفحة على محتوى من جهات خارجية، يتم تقديمه لأغراض إعلامية فقط (وليس كإقرارات/ضمانات)، ولا ينبغي اعتباره موافقة على آرائه من قبل Gate، ولا بمثابة نصيحة مالية أو مهنية. انظر إلى
إخلاء المسؤولية
للحصول على التفاصيل.
أعجبني
إعجاب
تعليق
إعادة النشر
مشاركة
تعليق
0/400
تعليق
لا توجد تعليقات
المواضيع الرائجة
عرض المزيد
#
Gate2025AnnualReportComing
81.46K درجة الشعبية
#
CryptoMarketMildlyRebounds
37.66K درجة الشعبية
#
GateChristmasVibes
19.52K درجة الشعبية
#
SantaRallyBegins
6.38K درجة الشعبية
#
CreatorETFs
3.84K درجة الشعبية
Gate Fun الساخن
عرض المزيد
الأحدث
جارٍ الإنهاء
تم الإدراج
1
1074464219
1074464219
القيمة السوقية:
$3.54K
عدد الحائزين:
1
0.00%
2
FUNNY
FUNNY
القيمة السوقية:
$3.53K
عدد الحائزين:
1
0.00%
3
Early seedli
日本币
القيمة السوقية:
$3.53K
عدد الحائزين:
1
0.00%
4
Pingtan Deve
Pingtan Development
القيمة السوقية:
$3.53K
عدد الحائزين:
1
0.00%
5
Aauto Shoote
Aauto Shooter 91
القيمة السوقية:
$3.53K
عدد الحائزين:
1
0.00%
تثبيت
خريطة الموقع
## ลงทุน Trust สำหรับคนไทยต้องรู้อะไรบ้าง REIT กับทรัสต์ต่างกันตรงไหน
นักลงทุนส่วนใหญ่ยังสับสนว่า **Trust** กับ **REIT** นี่มันเรื่องเดียวกันหรือต่างกัน หรือว่ากองทุนรวมที่เราชินตาชินใจนั่นแหละ ความจริงแล้ว สามารถเป็นคนละเรื่องกันได้ เพราะแม้ว่าทั้งสามจะเป็นเครื่องมือในการบริหารสินทรัพย์ แต่กลไกการทำงานและข้อกำหนดกฎหมายั้นแตกต่างออกไป วันนี้เราจะมาหมดปัญหาการสับสนนี้ให้ขาด และเข้าใจว่า Trust เหมาะสำหรับนักลงทุนแบบไหน
## Trust คืออะไร เปิดใจให้อดัมมา
**Trust** นั่นเป็นเครื่องมือทางกฎหมายสำหรับการบริหารจัดการสินทรัพย์ โดยหลักการคือ มีคนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน (ผู้ก่อตั้ง) โอนทรัพย์สินนั้นให้กับคนอื่นที่เชื่อถือได้ (ผู้จัดการ) เพื่อให้นำผลตอบแทนไปจ่ายให้กับอีกคนหนึ่ง (ผู้รับผลประโยชน์)
ทรัพย์สินที่เอามาจัดการผ่าน Trust ได้หลากหลายชนิด เช่น เงินสด อสังหาริมทรัพย์ หุ้น พันธบัตร ธุรกิจต่างๆ จนถึงงานศิลปะ หนี้สิน หรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้ได้
พูดให้เข้าใจง่ายๆ Trust คือระบบ "ให้คนอื่นช่วยจัดการเงินคุณ" เพื่อให้รายได้ที่ได้มาไปช่วยเหลือบุคคลที่สาม หรือบรรลุวัตถุประสงค์เฉพาะที่กำหนดไว้
### ที่ไหนใช้ Trust ได้ และที่ไหนต้องระวัง
**Trust นั้นมีประโยชน์หลายด้าน:**
ประการแรก สามารถส่งผลตอบแทนให้บุคคลที่สามได้โดยไม่ต้องโอนทรัพย์สินจริงๆ เอาไว้ได้ดี ยิ่งถ้าต้องการจัดการมรดกที่ซับซ้อน
ประการที่สอง ผู้จัดการ Trust (ผู้ว่าราชการ) ต้องปฏิบัติตามสัญญาเสียตรงตัว ซึ่งปกป้องเจ้าของทรัพย์ได้เป็นอย่างดี
ประการที่สาม ประเทศบางแห่งให้ประโยชน์ภาษีกับ Trust ขึ้นอยู่กับกฎหมายแต่ละประเทศ
ประการที่สี่ Trust ที่เพิกถอนได้ช่วยให้มืออาชีพจัดการทรัพย์สินขณะเจ้าของป่วยหรือไม่มีความสามารถ และสามารถเพิกถอนมาจัดการเองได้เมื่อสบายแล้ว
ประการที่ห้า Trust มีความยืดหยุ่นในการจัดตั้งและปรับแปลงมากกว่า REIT หรือกองทุนธรรมดา เพราะเป็นเพียงสัญญาระหว่างผู้เกี่ยวข้อง ไม่ต้องลงทะเบียนหรือขออนุมัติหลายขั้น
### Trust มีกี่ประเภท ต้องรู้จักอยู่นั่น
Trust แบ่งออกตามเงื่อนไขการเพิกถอน:
- **Revocable Trust** - เพิกถอนได้ สามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกได้
- **Irrevocable Trust** - เพิกถอนไม่ได้ ตั้งแต่ลงนามแล้วไม่สามารถย้อนกลับได้
นอกจากนี้ยังมี Trust ประเภทอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์:
- Asset Protection Trust - ป้องกันสินทรัพย์
- Charitable Trust - เพื่อการกุศล
- REIT (Real Estate Investment Trust) - ลงทุนอสังหาริมทรัพย์
- Land/Real Estate Trust - จัดการอสังหาริมทรัพย์
- Marital Trust - จัดการสินสมรส
- Special Needs Trust - จัดการเฉพาะด้านต่างๆ
และอีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้น Trust ที่ "ทำกำไรจากการลงทุน" เรียกว่า **Active Trust** ส่วน Trust ที่เพียงแค่ "ถือครองทรัพย์สิน" เพื่อประโยชน์อื่นๆ เรียกว่า **Passive Trust**
## ใครคือ 3 พระเอกในเรื่อง Trust
เมื่อมี Trust ต้องมี 3 ฝ่ายดำเนินการ:
**1. Settlor (ผู้ก่อตั้ง) - เจ้าของทรัพย์**
คนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินตั้งต้น พอลงนามสัญญา Trust แล้ว จะยังคงมีกรรมสิทธิ์ แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์หรือควบคุมทรัพย์สินนั้นแล้ว
**2. Trustee (ผู้จัดการ) - คนที่ไว้วางใจ**
บุคคลหรือสถาบันที่รับหน้าที่บริหารจัดการ Trust ตามสัญญา ไม่ได้ได้รับผลประโยชน์จากสินทรัพย์ แต่สามารถเรียกค่าจัดการได้
**3. Beneficiary (ผู้รับผลประโยชน์) - คนโชคดี**
ผู้ที่ได้รับผลตอบแทนจาก Trust ตามสัญญา มีสิทธิเรียกร้องหากทรัสตีทำผิดและติดตามเอาทรัพย์คืนได้
## Trust ต้องมีอะไรจึงสมบูรณ์ 3 เงื่อนไขต้องครบ
Trust จึงเป็นทางการไม่ใช่แค่เพราะ 3 ฝ่ายมา แต่ต้องครบ 3 เงื่อนไขดังนี้:
**1. Certainty of Word - เจตนาต้องชัดเจน**
ต้องมีสัญญาลายลักษณ์อักษรที่ชัดแจ้งระหว่าง Settlor และ Trustee ว่าต้องทำอะไรตรงไหน
**2. Certainty of Subject Matter - ทรัพย์สินต้องเจาะจง**
ต้องมีความชัดเจนว่าทรัพย์สินอะไร มีอยู่จริงหรือเปล่า และจะบริหารจัดการยังไง
**3. Certainty of Object - ผู้รับประโยชน์ต้องแน่นอน**
ผู้ที่จะได้รับประโยชน์ต้องมีตัวตน ไม่ใช่คนที่เสียชีวิตหรือหายตัวไปแล้ว
## Trust vs REIT vs Fund - อยากรู้ต้องศึกษา
**Trust vs REIT มีความเหมือนจริงๆ:**
REIT ก็คือ Trust ประเภทหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับอสังหาริมทรัพย์ ประเด็นต่างคือ REIT จำกัดเฉพาะการลงทุนใน real estate แต่ Trust ทั่วไปสามารถบริหารสินทรัพย์ได้เกือบทุกชนิด
ทั้ง Trust และ REIT ต่างก็ไม่ใช่นิติบุคคลตามกฎหมาย และต่างก็ตั้งขึ้นโดยสัญญา
**Trust vs กองทุนรวม (Fund) นี่ต่างกันเสียเดือน:**
- **โครงสร้างกฎหมาย:** กองทุนเป็นนิติบุคคล แต่ Trust ไม่ใช่
- **วิธีการบริหาร:** Fund นำเงินจากผู้ถือหน่วยไปลงทุนตามแผน ส่วน Trust เป็นการโอนทรัพย์ให้ Trustee ดำเนินการ
- **กระบวนการจัดตั้ง:** Fund ต้องลงทะเบียนและขออนุญาต Trust มีความยืดหยุ่นมากกว่า
## ประเทศไทย อนุญาตให้ลงทุน Trust แบบไหนบ้าง
ในไทย ทรัสต์ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นเพื่อการระดมทุนในตลาดทุนเท่านั้น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) อนุญาต 2 รูปแบบ:
**1. Active Trust - Trust จัดการเพื่อสร้างผลประโยชน์**
ถูกก่อตั้งมาเพื่อบริหารทรัพย์สินให้เกิดรายได้ เช่น:
- II/HNW Trust Fund - สำหรับสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่
- REIT - สำหรับอสังหาริมทรัพย์
**2. Passive Trust - Trust ถือครองทรัพย์สินตามจุดประสงค์**
จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลสินทรัพย์เพื่อประโยชน์เฉพาะ เช่น:
- ESOP - เพื่อออกและเสนอขายหุ้นให้กรรมการและพนักงาน
- EJIP - โครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง
- Reserve Account / Sinking Fund - สำหรับเก็บเงินชำระหนี้หุ้นกู้
ในทางปฏิบัติ Trust ส่วนใหญ่ที่จัดตั้งในไทยเป็น REIT ทำให้นักลงทุนทั่วไปส่วนใหญ่รู้จัก Trust เพียงผ่าน REIT อย่างเดียว แต่ข้อดีคือ REIT จำพวดสินทรัพย์ได้ง่าย ไม่มีปัญหาคุณภาพ ทำให้แม้มือใหม่ก็สามารถเข้าซื้อขายได้
## สรุป ถ้าไทยต้องลงทุน Trust ลงทุนเรื่องอะไร
**Trust** ตัวจริงคือเครื่องมือบริหารสินทรัพย์ที่เกิดมาจากสัญญาและความไว้วางใจ แม้จะเริ่มใช้เพื่อจัดการมรดกแต่ปัจจุบันสามารถนำมาจัดการสินทรัพย์ได้เกือบทุกประเภท
เมื่อเจ้าของทรัพย์มีสินทรัพย์เป็นอสังหาริมทรัพย์ Trust นั้นก็กลายเป็น REIT ซึ่งเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากลงทุนสินทรัพย์ใหญ่แต่งบประมาณจำกัด
ประเด็นสำคัญ: Trust เหมาะกับการรวมตัวของบุคคลหลายคนเพื่อมุ่งหวังเดียวกัน ส่วน REIT เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพราะมีความโปร่งใสและจำพวดได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ถ้าคิดลงทุน Trust ในไทยในตอนนี้ ส่วนใหญ่คุณก็จะเจอ REIT เป็นหลัก จึงคุ้มค่าที่จะศึกษา REIT ให้เข้าใจลึกๆ เพื่อตัดสินใจลงทุนได้อย่างเฉียบคม