Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
Harus dipahami sebelum menempatkan ₿ dalam dana bersama: 5 hal yang perlu diketahui tentang berinvestasi dalam dana bersama
กองทุนรวม คืออะไร สำหรับมือใหม่จริงๆ
ลองนึกภาพว่าคุณมีเงิน 10,000 บาท แต่อยากลงทุนในสินทรัพย์จำนวนมาก ปัญหาคือเงินไม่พอหรือไม่มีเวลาเลือกกลับ อยู่ตรงนี้พอดี กองทุนรวม เข้ามาช่วย
เป็นกลไกที่ผู้บริหารกองทุนรวมเงินจากลูกค้ามากมายคนเป็นเม็ดเงินใหญ่ แล้วนำไปลงทุนตามนโยบายที่กำหนดไว้ ผลตอบแทนที่เข้ามาจะหารแบ่งตามสัดส่วนที่คุณลงไป ทั้งนี้ผู้จัดการกองทุนต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและได้การรับรองจากหน่วยกำกับดูแล ทำให้คุณสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่เดิมไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยทุนของตัวเอง
ทำไมต้องลงทุนในกองทุนรวม
1. กระจายความเสี่ยงแบบไม่ต้องศึกษา
ด้วยการรวมเงินทำให้กองทุนสามารถลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายชนิด ตั้งแต่หุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ ไปจนถึงตราสารต่างประเทศ คุณไม่ต้องตัดสินใจเอง ผู้บริหารกองทุนทำให้อยู่แล้ว
2. ได้มืออาชีพดูแลเงิน
มีความเสี่ยงว่ากองทุนอาจปลดออกหรือทำการหลักเป็นแนนแต่นั่นแล้ว คณะกรรมการก็มีการตรวจสอบบ้าง ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจว่าเงินถูกจัดการตามกฎหมาย
3. ไม่ต้องนั่งดูมือถือตลอดวัน
สำหรับคนยุ่ง กองทุนรวมนั้นน้อยกว่าหุ้นหรือเทรดตรง เพราะการซื้อขายมีอยู่วันละครั้ง (ในกรณีกองทุนเปิด) คุณจึงไม่ต้องกดขายช่วงโวหารดึกวัน
โครงสร้างของกองทุนรวมมีกี่แบบ
แบ่งตามการขายคืนหน่วยลงทุน
กองทุนปิด (Closed – End Fund)
กองทุนเปิด (Opened – End Fund)
แบ่งตามนโยบายการลงทุน
กองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund)
กองทุนตราสารหนี้ (Fixed Income Fund)
กองทุนผสม (Mixed Fund)
กองทุนผสมแบบยืดหยุ่น (Flexible Fund)
กองทุนตราสารทุน (Equity Fund)
กองทุนหมวดอุตสาหกรรม (Sector Fund)
กองทุนทรัพย์สินทางเลือก (Alternative Investment Fund)
ไม่มีกองทุนไหนที่เหมาะทุกคนหรือทุกช่วงเวลา แต่ละคนต้องหาส่วนผสมตามอุณหภูมิความเสี่ยงของตัวเอง
ขั้นตอน 5 ข้อก่อนเปิดบัญชีลงทุนในกองทุนรวม
1. ประเมินตัวเอง: ยอมรับความเสี่ยงได้เท่าไหร่
ทุกบลจ.จะให้คุณทำแบบทดสอบ KYC ก่อนเปิดบัญชี แต่ถ้าให้ง่ายขึ้น ลองตั้งคำถาม: “ถ้าเห็นเงินของผมเปลี่ยนแปลง 10%, 20%, 30% ผมจะหนักใจแค่ไหน” คำตอบนั้นบอกจำนวนเปอร์เซนต์ที่คุณรับได้
2. ดูภาพรวมเศรษฐกิจไทยหรือโลก
ตรวจสอบว่าตลาดอยู่ในช่วงบูม หรือรีเซ็ต สินทรัพย์ชนิดไหนน่าลงทุน สินทรัพย์ชนิดไหนควรหลีกเลี่ยง การรู้นี้ช่วยคุณเลือกกองทุนที่ชาญฉลาดมากขึ้น
3. อ่านหนังสือชี้ชวนของกองทุน
เลือกกองทุนที่น้อยลง แล้วอ่านรายละเอียด เงื่อนไขการซื้อขาย อัตราค่าธรรมเนียม นโยบายการลงทุน ผลตอบแทนเป้าหมาย เข้าใจให้ชัดเจน
4. ย้อนดูผลงาน: ความสัมพันธ์ระหว่างผลตอบแทนและความผันผวน
ปริ้นท์ผลงาน 3 ปี 5 ปี ของกองทุนที่คิดว่าโอเค เปรียบเทียบว่ากองไหนให้ผลตอบแทนดีที่สุดแต่ความผันผวนเหมาะสม เกิดความสมดุล
5. ติดตามและประเมินผลต่อเนื่อง
เมื่อเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง ตลาดเปลี่ยนทิศ อาจมีการสลับหน่วยลงทุนได้ ไม่ได้ซื้อครั้งเดียวแล้วปล่อยไว้เฉยนะ
ที่ลงทุนในกองทุนรวมแล้ว ผลตอบแทนคิดยังไง
หลังจากซื้อหน่วยลงทุนแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่อยากรู้ว่า “ถ้า NAV (Net Asset Value) เปลี่ยนแปลง ผมทำกำไรหรือขาดทุนแล้ว”
NAV คิดจากไหน
NAV = (สินทรัพย์ทั้งหมดที่กองทุนถืออยู่ ณ ปลายวัน - หนี้สินและค่าใช้จ่ายค้าง) ÷ จำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด
ถ้า NAV ที่ซื้อ 10 บาท แล้วตอนนี้ 12 บาท ส่วนต่าง 2 บาท เป็นกำไร แต่มันยังไม่ realized จนกว่าคุณจะขายหน่วยลงทุน
ผลตอบแทนสองรูปแบบ
ผลตอบแทนรวม = Capital Gain + Dividend ทั้งหมด (ถ้ากองทุนให้ทั้งสองแบบ)
สรุป: ทำไมต้องเริ่มลงทุนในกองทุนรวมวันนี้
ไม่มีใครเชี่ยวชาญการลงทุนมาตั้งแต่ครั้งแรก ทุกคนมีข้อจำกัด: เงินไม่พอ เวลาไม่พอ ความรู้ไม่พอ กองทุนรวมเป็นคำตอบสำหรับปัญหาเหล่านี้
อีกประเด็นที่ลืม: การไม่ลงทุนคือความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุด ปล่อยเงินไว้นิ่งๆ มูลค่าเสื่อมลงตามอัตราเงินเฟ้อทุกปี ลงทุนในกองทุนรวมไม่ยุ่งยากและไม่ต้องกระแสให้สั่งแล้วเมื่อไหร่ผู้บริหารกองทุนจะทำให้อยู่แล้ว
นั่นมันทั้งหมดสำหรับ 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนลงทุนในกองทุนรวม เมื่อจะเริ่มขั้นตอนต่อเนื่องนี้แล้ว สิ่งเดียวที่เหลือคือลงมือทำปลายการ