Lạm phát thực sự là gì và tại sao các nhà đầu tư lại phải lo lắng

ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าราคาของสิ่งที่ซื้อในชีวิตประจำวันแพงขึ้นเรื่อย ๆ นั่นคือสัญญาณของ เงินเฟ้อ ปรากฏการณ์เศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่ออำนาจการซื้อของเงินของเรา แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใจอย่างแท้จริง

ภาวะเงินเฟ้อ: ความเป็นจริงที่เราต้องเผชิญ

เงินเฟ้อ คือ สถานการณ์เศรษฐกิจที่มูลค่าเงินลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือพูดอีกวิธีหนึ่ง คือเงินที่เรามีในกระเป๋าจะซื้อของได้น้อยลงกว่าเดิม

ยกตัวอย่าง เมื่อสักวาระหนึ่ง 50 บาทสามารถซื้อข้าวได้หลายจาน แต่วันนี้เดิมเงินจำนวนเดียวกันนี้ซื้อข้าวได้เพียงจานเดียว นั่นคือพลังของเงินเฟ้อ

ใครได้ประโยชน์ และใครเสียประโยชน์?

ผู้ประกอบการและพ่อค้า ได้ประโยชน์เพราะพวกเขาสามารถปรับราคาสินค้าตามอัตราเงินเฟ้อได้ แต่ พนักงานเงินเดือน มักไม่ได้รับการปรับเงินเดือนเท่าเทียมกับอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้อำนาจซื้อของพวกเขาลดลง

สาเหตุของเงินเฟ้อมีกี่ประเภท

โดยทั่วไปเงินเฟ้อเกิดขึ้นจากสาเหตุหลัก 3 ประการ:

1. Demand Pull Inflation (เงินเฟ้อจากความต้องการ) ผู้บริโภคต้องการซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น แต่ปัจจุบันตลาดขาดแคลนสินค้า ผู้ขายจึงปรับราคาสูงขึ้น

2. Cost Push Inflation (เงินเฟ้อจากต้นทุนสูงขึ้น) ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาพลังงาน วัตถุดิบ หรือค่าจ้าง ผู้ผลิตจึงต้องเพิ่มราคาสินค้า

3. Printing Money Inflation (เงินเฟ้อจากการพิมพ์เงิน) รัฐบาลพิมพ์เงินเพิ่มจำนวนมากเกินไป ทำให้ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจมากเกินความจำเป็น

เงินเฟ้อของไทยผ่านประวัติศาสตร์

ปี 2517 เงินเฟ้อของไทยทะลุ 24.3% เนื่องจากวิกฤตน้ำมันจากสงครามตะวันออกกลาง

ปี 2523 เงินเฟ้อสูงเป็นครั้งที่สอง เพราะสงครามระหว่างอิรักและอิหร่าน

ปี 2541 หลังวิกฤติเศรษฐกิจเอเชีย ค่าบาทอ่อนค่า เงินเฟ้อพุ่งถึง 7.89%

จนมาถึง 2565 เงินเฟ้อกระโดดขึ้นมา 7.10% อีกครั้ง เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ภาวะเงินเฟ้อวัดได้ยังไง?

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คือเครื่องมือวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ทุกเดือนกระทรวงพาณิชย์ของไทยจะเก็บข้อมูลราคาสินค้า 430 รายการเพื่อคำนวณ CPI

ข้อมูลจากมกราคม 2567:

  • CPI อยู่ที่ 110.3 (ปีฐาน 2562 = 100)
  • เงินเฟ้อทั่วไป (YoY) ลดลง 1.11% เมื่อเทียบปีก่อน
  • นี่เป็นต่ำสุดใน 35 เดือนที่ผ่านมา

ทำไมเงินเฟ้อถึงเกิดขึ้นในโลกในปัจจุบัน

หลังจากวิกฤติโรคระบาด เศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับ “revenge spending” - ความต้องการอัดอั้นของผู้บริโภคที่ระเบิดออกมา แต่กำลังการผลิตยังไม่ทันตัว นอกจากนี้:

  • ราคาพลังงาน พุ่งสูงอย่างมาก น้ำมันดิบจาก record low ในปี 2020 กระโดดไปเป็น record high
  • ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ขาดตู้คอนเทนเนอร์ขนส่ง ขาดชิปเซมิคอนดักเตอร์
  • นโยบายการเงิน ธนาคารกลางต่าง ๆ ยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตามข้อมูล IMF ถึงมกราคม 2567 เศรษฐกิจโลกคาดว่าจะเติบโต 3.1% ในปี 2567 และ 3.2% ในปี 2568 แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

ผลกระทบเงินเฟ้อต่อชีวิตประจำวันของเรา

บนศาลาของประชาชนทั่วไป

ค่าครองชีพสูงขึ้นหมายความว่า:

  • ซื้อสินค้าเดียวกันได้น้อยลง
  • อำนาจซื้อลดลง
  • การวางแผนการเงินต้องยึดหนักขึ้น

ดูตัวอย่างราคาสินค้าสำคัญในชีวิตประจำวัน:

สินค้า 2564 2565 2566 2567
หมูเนื้อแดง 137.5 บ./กก. 205 บ./กก. 125 บ./กก. 133.31 บ./กก.
น้ำมันดีเซล 28.29 บ./ลิตร 34.94 บ./ลิตร 33.44 บ./ลิตร 40.24 บ./ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 28.75 บ./ลิตร 37.15 บ./ลิตร 35.08 บ./ลิตร 39.15 บ./ลิตร
ก๊าซหุงต้ม 318 บ./ถัง 393 บ./ถัง 423 บ./ถัง 423 บ./ถัง

บนศาลาของผู้ประกอบการ

เมื่อสินค้าแพงขึ้น ยอดขายลดลง ต้นทุนสูงขึ้น บางธุรกิจต้องชะลอการลงทุน ลดจำนวนพนักงาน ซึ่งเป็นสัญญาณของ Stagflation - สถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

บนศาลาของเศรษฐกิจประเทศ

ถ้า Stagflation เกิดขึ้น:

  • ประชาชนซื้อของน้อยลง
  • ธุรกิจขายของไม่ได้
  • การลงทุนเพื่อพัฒนาการผลิตล่าช้า
  • อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
  • GDP ขยายตัวช้า

เงินเฟ้อ vs เงินฝืด: ต่างกันอย่างไร

ประเด็น เงินเฟ้อ เงินฝืด
ราคาสินค้าและบริการ เพิ่มขึ้น ลดลง
อำนาจซื้อของเงิน อ่อนลง เข็ดขึ้น
ความต้องการซื้อ มากขึ้น ลดลง
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สามารถกระตุ้นการเติบโต ทำให้เศรษฐกิจซบเซา

ทั้งสองสถานการณ์ต่างก็เป็นอันตรายถ้ามีความรุนแรงและยืดเยื้อ

เมื่อเงินเฟ้อมา นักลงทุนควรทำอะไร

1. วางแผนการลงทุนที่ชาญฉลาด

ในยุคเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำมาก ต้องหาผลตอบแทนจากที่อื่น:

  • หุ้น: มีโอกาสหากเลือกกลุ่มที่เหมาะสม
  • กองทุนรวม: ให้ความหลากหลายในการลงทุน
  • อสังหาริมทรัพย์: มีการเก็บค่าเช่าตามเงินเฟ้อ

2. ลดการก่อหนี้ไม่ลงใจ

  • หลีกเลี่ยงการซื้อของที่ไม่จำเป็น
  • วางแผนการใช้จ่ายแบบเข้มงวด
  • ไม่ยืมเงินเพื่อสิ่งที่ไม่สร้างรายได้

3. เลือกสินทรัพย์ที่มั่นคง

ทองคำ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะ:

  • มีมูลค่าในตัวของมันเอง
  • ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับเงินเฟ้อ
  • เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

นักลงทุนบางคนชื่นชอบการเทรด CFD ของทองคำ เพราะสามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

4. ติดตามข่าวสาร

เงินเฟ้อและนโยบายที่เกี่ยวข้องเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความเป็นปัจจุบันคือสิ่งที่นักลงทุนต้องการ

หุ้นกลุ่มใดได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ?

หุ้นธนาคาร

กำไรของธนาคารมาจากส่วนต่างดอกเบี้ย (Net Interest Margin) เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ธนาคารจะได้กำไรมากขึ้น

หุ้นประกัน

บริษัทประกันลงทุนในตราสารหนี้ที่มีผลตอบแทนสัมพันธ์กับอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้พบบริษัทเช่น ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่ได้ประโยชน์อย่างมหาศาลในครึ่งแรกของปี 2565 - ปตท.มีรายได้ 1,685,419 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 64,419 ล้านบาท เติบโต 12.7% เมื่อเทียบปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูง

หุ้นอาหาร

สถานการณ์โลกทำให้ปัญหาอาหารเพิ่มเติม ผู้ผลิตอาหารมีความเป็นสิ่งจำเป็นและมีอำนาจในการปรับราคา

ตราสารหนี้แบบลอยตัว

ตราสารหนี้แบบ Floating Rate Bond หรือ Inflation Linked Bond จะปรับอัตราดอกเบี้ยตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ

สิ่งที่จะได้เรียนรู้ในช่วงเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อระดับปานกลางเป็นเหตุการณ์ที่เป็นธรรมชาติของเศรษฐกิจ แต่เงินเฟ้อในระดับสูง (Hyper Inflation) ล่ะคือจุดที่เกิดปัญหา

การเข้าใจภาวะเงินเฟ้อ จึงเป็นส่วนสำคัญของการที่นักลงทุนทำการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เปรียบเทียบกับเงินฝืด (สถานการณ์ตรงข้าม) เงินเฟ้อมักจะเป็นตัวลุกเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ที่เดียวกัน จำเป็นต้องจัดการให้เหมาะสม

ด้วยการติดตามข่าวสารกลไกโลก นโยบายของธนาคารกลาง และการเลือกลงทุนอย่างไม่ประมาท คุณจึงสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินได้แม้ในยุคเงินเฟ้อที่ท้าทาย

Xem bản gốc
Trang này có thể chứa nội dung của bên thứ ba, được cung cấp chỉ nhằm mục đích thông tin (không phải là tuyên bố/bảo đảm) và không được coi là sự chứng thực cho quan điểm của Gate hoặc là lời khuyên về tài chính hoặc chuyên môn. Xem Tuyên bố từ chối trách nhiệm để biết chi tiết.
  • Phần thưởng
  • Bình luận
  • Đăng lại
  • Retweed
Bình luận
0/400
Không có bình luận
  • Gate Fun hot

    Xem thêm
  • Vốn hóa:$3.52KNgười nắm giữ:1
    0.00%
  • Vốn hóa:$3.51KNgười nắm giữ:1
    0.00%
  • Vốn hóa:$3.53KNgười nắm giữ:2
    0.00%
  • Vốn hóa:$3.56KNgười nắm giữ:2
    0.00%
  • Vốn hóa:$3.53KNgười nắm giữ:2
    0.04%
  • Ghim